โดย แพทย์หญิงสาริษฐา สมทรัพย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแอนไทเอจจิ้ง ด้านระบบประสาทและสมอง และด้านกุมารเวช
• เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนวิธีคิด
ในช่วงวัย 45-50 ปี ฮอร์โมนในร่างกายของบางคนอาจยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากฮอร์โมนของแต่ละคนมีมากน้อยไม่เท่ากัน แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราไม่ควรยึดติดกับอายุตัวเอง
ตัวอย่างเช่น เมื่ออายุใกล้วัย 40 อาจทำให้บางคนเริ่มเครียดและวิตกกังวลว่าตัวเองจะแก่ลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนหนุ่มสาว ดังนั้น จึงทำให้เกิดความเครียดได้ วิธีแก้คือให้คิดแง่ดีไว้ก่อนหรือเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ เช่น ต้องทำให้ร่างกายแข็งแรง ต้องมีชีวิตอยู่ให้นานที่สุด ดังนั้น เราควรดูแลตัวเอง โดยเริ่มตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ทำร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า ยืดเส้นยืดสาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอให้พอดี และเหมาะกับร่างกายตัวเอง ดังนั้น การชะลอวัยต้องเริ่มจากความคิดตัวเองก่อน
• เลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายและสมดุล
อันดับต่อไปคือการรับประทานอาหาร ถ้าไม่อยากให้ร่างกายแก่ ควรงดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต ของหวาน ของทอด อาหารปิ้งย่าง อาหารที่มีรสเค็มจัด หรืออาหารที่ใส่สารปรุงรสต่างๆ เราควรรับประทานอาหารให้หลากหลายและมีความสมดุล เช่น รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ ผลไม้ โปรตีนที่มีคุณภาพ เช่น เนื้อสัตว์ต่างๆ
ส่วนโปรตีนสำเร็จรูป เช่น เวย์โปรตีนนั้นมีจุดประสงค์ในการสร้างกล้ามเนื้อสำหรับบุคคลที่ต้องการกล้ามเนื้อใหญ่ มีสัดส่วนสวยงาม แต่เวย์โปรตีนมีโมเลกุลใหญ่ หากรับประทานในปริมาณมากอาจทำให้เลือดมีภาวะเป็นกรด (Acidosis) ได้ อีกประการหนึ่งคือเมื่อเรารับประทานโปรตีนที่มีโมเลกุลใหญ่เข้าไปในปริมาณมาก อาจส่งผลให้มีการขับถ่ายทางไตและทำให้ไตทำงานหนักขึ้นจนทำให้ไตเสื่อมได้ นอกจากนั้นควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อร่างกายมนุษย์
• การพักผ่อนที่มีคุณภาพ
การนอนหลับพักผ่อนที่มีคุณภาพจะอยู่ที่วันละประมาณ 5-8 ชั่วโมง และต้องเป็นการนอนหลับสนิท ไม่มีการหยุดหายใจในระหว่างที่นอนหลับ ไม่มีการกรน เมื่อตื่นขึ้นมาไม่ปวดหัว ไม่หงุดหงิด และไม่ง่วงนอนระหว่างวัน ไม่มีอาการปากแห้งคอแห้งและไม่มีการใช้ยาในการช่วยนอนหลับ
เรียบเรียงโดย วินนา รักการ
ขอบคุณภาพจาก unsplash